BANNER

ศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศเกาหลีใต้รับฟ้องคดีที่ฟ้องรัฐบาลเกี่ยวกับการกระทำในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อผู้เยาว์


 ข่าวต่างประเทศ      31 May 2024

  


                    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศเกาหลีใต้เริ่มทำการพิจารณาคดีที่มีการกล่าวหารัฐบาลว่ามีความล้มเหลวในการปกป้องประชากรกว่า ๒๐๐ คน ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและผู้เยาว์ จากการที่รัฐบาลมิได้มีการจัดการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างดีพอ
โจทก์กล่าวว่า “การพิจารณาคดีครั้งนี้ถือเป็นการฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศครั้งแรกของเอเชีย ซึ่งรวมถึงการยื่นคำร้อง ๔ คดีจากเด็กและทารกรวมถึงคดีอื่น ๆ ตั้งแต่ปี ๒๐๒๐ และอีกหนึ่งคดี
ซึ่งมาจากทารกในครรภ์ซึ่งมีชื่อเล่นว่า
Woodpecker ในขณะนั้น”

                             นาย Lee Jongseok ประธานศาลรัฐธรรมนูญกล่าวว่า “การฟ้องร้องเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศนั้นเป็นกระแสทั่วโลกซึ่งดึงดูดความสนใจของสาธารณชนเพิ่มมากขึ้น สำหรับคดีนี้ศาลได้มีการตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์สาธารณะ รวมทั้งมีความพยายามเพื่อรับรองว่าการพิจารณาคดีดังกล่าวได้รับการดำเนินการ
อย่างละเอียดถี่ถ้วน”

                      การพิจารณาคดีนั้นใช้เวลาหลายสัปดาห์ภายหลังจากที่ศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรปตัดสินว่า รัฐบาลแห่งประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้กระทำการละเมิดสิทธิของพลเมืองในประเทศตนเอง จากการไม่กระทำการ
ที่เพียงพอต่อการรับมือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ  นอกจากนี้ ศาลแห่งประเทศออสเตรเลีย บราซิล และเปรูนั้นก็มีคดีที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

                     ฝ่ายโจทก์ได้ระบุในคำแถลงการณ์ว่า แผนการรับมือเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศของประเทศเกาหลีใต้ไม่เพียงพอต่อการรักษาอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นให้อยู่ภายใน ๑.๕ องศาเซลเซียสได้  ดังนั้น จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อหน้าที่ในสิทธิขั้นพื้นฐาน เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า หากอุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นเกิน ๑.๕ องศาเซลเซียสหรือ ๒.๗ ฟาเรนไฮต์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิในยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมย่อมสามารถนำไปสู่หายนะและผลกระทบที่มิอาจแก้ไขได้ ตั้งแต่การละลายของธารน้ำแข็งไปจนถึงการแปรปรวนของกระแสน้ำในมหาสมุทร
                     การเผาไหม้เชื้อเพลิงจากพลังงานฟอสซิล และผลกระทบจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนส่งผล
ต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ และเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้นั้นต้องอาศัยเชื้อเพลิงดังกล่าวเพื่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ  อย่างไรก็ดี มีความพยายามที่จะบรรลุความตกลงเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน (
Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. ๒๐๕๐

                     ทนายความทางฝั่งรัฐบาลกล่าวต่อศาลว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังดำเนินการในทุกหนทางที่เป็นไปได้ต่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และมิได้มีการกระทำละเมิดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง อีกทั้งรัฐบาลมิได้กระทำการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มเยาวชน และอาจมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายประจำปีในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอน  อย่างไรก็ดี นักเคลื่อนไหวหลายคนระบุว่า การตอบสนองของรัฐบาลนั้นไม่เป็นที่พอใจต่อกลุ่มเยาวชน รวมถึง Woodpecker ซึ่งในขณะนี้มีอายุครบ ๑ ปี ที่ได้รวมตัวกันนอกศาลพร้อมกับการวิจารณ์ตามข้อเรียกร้องของพวกเขาต่อการไม่ดำเนินการของรัฐบาลสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
                    นาง Lee Donghyun มารดาของ Woodpecker กล่าวว่า “การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนยังคงถูกผลักดันราวกับว่าเป็นการบ้านที่สามารถกระทำได้ในภายหลัง แต่เป็นภาระที่ลูก ๆ ของพวกเราต้องแบกรับไป
ในที่สุด”  นอกจากนี้ นาง
Namkung Sujin มารดาของโจทก์วัย ๘ ปี กล่าวว่า “เด็ก ๆ ของเธอนั้นใช้ชีวิต
ด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากมีภูเขาหลังบ้านและเด็ก ๆ นั้นบอกว่า บ้านของพวกเขาอาจโดนดินถล่มได้
แล้วใครจะไปรู้? สิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นก็ได้”

                    เมื่อปีที่แล้ว ประเทศเกาหลีใต้ได้ดำเนินการแก้ไขเป้าหมายของปี ค.ศ. ๒๐๓๐ สำหรับการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม แต่ยังคงรักษาเป้าหมายระดับชาติในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ลดลงจำนวน ๔๐% ในปี ค.ศ. ๒๐๑๘ ซึ่งรัฐบาลให้เหตุผลว่าเป็นการดำเนินการที่สมเหตุสมผล


ข่าวประจำวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๗

แปลและเรียบเรียงจาก https://www.reuters.com/business/environment/south-korean-court-hears-childrens-climate-change-case-against-government-2024-04-23/

*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย


 

© 2016 Office of the Council of State.