BANNER

ศาลสูงสเปนรับรองสิทธิชายหนุ่มที่เปลือยกายในที่สาธารณะ เนื่องจากเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายในบางแคว้น


 ข่าวต่างประเทศ      30 Jun 2023

  


          ศาลชั้นต้นของสเปนตัดสินให้ชายคนหนึ่งซึ่งถูกปรับฐานเดินเปลือยกายไปตามถนนในเมือง Aldaia ในแคว้น Valencia และต่อมาเขาพยายามเข้าร่วมการพิจารณาคดีในสภาพเปลือยกาย ในวันพิจารณาคดี นาย Alejandro Colomar วัย ๒๙ ปี ถูกบันทึกภาพขณะมาถึงศาลโดยสวมรองเท้าเดินป่าเพียงคู่เดียว ก่อนจะได้รับคำสั่งให้สวมเสื้อผ้าเพื่อเข้าไปในอาคาร ซึ่งในการพิจารณาคดีของเขา เขาแย้งว่าการปรับนั้นเป็นการละเมิดสิทธิของเขาที่จะมีเสรีภาพทางความคิด
           ในคำแถลงการณ์ของศาลสูงของแคว้น Valencia ระบุว่า มีคำวินิจฉัยกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเพื่อยกเลิกคำสั่งปรับชายคนดังกล่าวฐานเดินเปลือยกายไปตามถนนในเมือง Aldaia ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ชานเมืองของแคว้น อย่างไรก็ตาม ศาลสูงยอมรับถึงการมีอยู่ของ “ช่องโหว่ทางกฎหมาย” ในกฎหมายสเปนที่เกี่ยวข้องกับการเปลือยกายในที่สาธารณะ
          เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่าเขาเริ่มเปลื้องผ้าในที่สาธารณะตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๒๐ (พ.ศ. ๒๕๖๓) และเขาได้รับการสนับสนุนมากกว่าการถูกต่อว่าหรือเหยียดหยาม แม้ว่าจะมีครั้งหนึ่งเขาเคยถูกขู่ด้วยมีดก็ตาม เขากล่าวต่อไปว่าการเรียกให้จ่ายค่าปรับนั้นไม่สมเหตุสมผลและยังถูกกล่าวหาทำการอนาจาร แต่ในคำจำกัดความว่าการกระทำใดเป็นการส่อถึงเจตนาทางเพศตามพจนานุกรม กลับไม่มีสิ่งที่เขาได้กระทำเขียนไว้อยู่เลย
          ทั้งนี้ การเปลือยกายในที่สาธารณะเป็นสิ่งถูกกฎหมายในสเปนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๘๘ (พ.ศ. ๒๕๓๑)ทุกคนสามารถเดินเปลือยกายไปตามถนนโดยไม่ถูกจับกุม เว้นแต่บางแคว้น เช่น Valladolid และ Barcelona ที่มีการออกกฎหมายควบคุมการเปลือยกายในที่สาธารณะโดยเฉพาะบริเวณที่ห่างจากชายหาด ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศาลสูงตั้งข้อสังเกตว่าในเมือง Aldaia ไม่มีกฎหมายห้ามการเปลือยกายในที่สาธารณะ
          ดังนั้น ศาลสูงได้ตัดสินให้จำกัดการเปลือยกายของนาย Colomar ในที่สาธารณะบนถนน ๒ สายในเมือง Aldaia ในช่วงเวลาต่าง ๆ และพฤติกรรมของเขาไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประชาชน


ข่าวประจำวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.reuters.com/world/europe/spanish-high-court-backs-mans-right-walk-naked-street-2023-02-03/
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
 

© 2016 Office of the Council of State.